Bitcoin (BTC) Wallet

เกี่ยวกับ Bitcoin (BTC)

• Bitcoin (BTC) คืออะไร

  Bitcoin (BTC) มีต้นกำเนิดมาจากการดำเนินการเครือข่ายกระจายศูนย์แบบ Peer-to-Peer ที่เสนอโดย Satoshi Nakamoto ในปี 2008 ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสและบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger) เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาสถาบันแบบรวมศูนย์เพื่อการรับรอง การเกิดขึ้นของ Bitcoin ยังหมายถึงการกำเนิดขึ้นของระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ด้วยเช่นกัน Bitcoin ต่างจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange) ตรงที่ดำเนินงานบนอุปกรณ์แบบกระจายศูนย์จำนวนมาก โดยภายในไม่กี่วินาที บล็อกที่กำหนดจะถูกเผยแพร่ไปยัง Node อื่นๆ ทั้งหมดบนเครือข่าย เพื่อให้แน่ใจว่า Node ทั้งหมดจะมีฉันทามติว่าบล็อกใดมีความถูกต้อง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Bitcoin ใช้ Address อยู่ด้วยกัน 4 ประเภท ได้แก่ Legacy Adresses (P2PKH), Pay to Script Hash (P2SH), Native SegWit (P2WPKH) และ Taproot (P2TR)

• Bitcoin (BTC) Wallet คืออะไร

  Bitcoin (BTC) Wallet ให้คุณจัดการสินทรัพย์ BTC ของคุณได้อย่างง่ายดาย สัมผัสประสบการณ์บริการชั้นยอดไม่ว่าจะเป็นการโอน การฝาก การดูยอดคงเหลือ ไปจนถึง Cross-Chain Swap อย่าลืมว่า Private Key คือหัวใจของ Wallet ของคุณ ถ้าควบคุมได้ ก็ควบคุม Bitcoin ของคุณได้ หากพร้อมที่จะเริ่มต้นเส้นทาง Bitcoin ของคุณแล้วล่ะก็ ดาวน์โหลด Bitget Wallet เลย ใช้งานได้ทั้งบน iOS, Android และ Chrome Extension เข้าร่วมกับเราแล้วจัดการโทเค็นมากมายกว่า 250,000 ตัวด้วย Wallet เดียวเลย!

• BRC-20 คืออะไร

  BRC-20 เป็นมาตรฐานโทเค็นใหม่บนบล็อกเชน Bitcoin ซึ่งเปิดตัวโดย @domodata ในเดือนมีนาคม 2023 โดยเป็นเสมือนรูปแบบหนึ่งของ ERC-20 ของ Ethereum ความแตกต่างอยู่ตรงที่ไม่ได้ใช้ Smart Contract บน EVM Chain แต่จะดำเนินงานเป็นไฟล์สคริปต์ภายในเครือข่าย Bitcoin แทน BRC-20 ใช้โปรโตคอล Ordinals แนบข้อมูล Metadata ไปกับธุรกรรม Bitcoin จึงเป็นการสร้างโทเค็นที่แตกต่างไปจาก Bitcoin โทเค็นเหล่านี้จัดเก็บเป็นไฟล์สคริปต์ JSON และจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทางในการจัดการ Bitget Wallet เป็นหนึ่งใน Wallet บุกเบิกที่ให้คุณจัดการโทเค็น BRC-20 ของคุณได้ เช่น ORDI, SATS, TURT, RATS และอีกเพียบ

• การอัปเกรด Taproot ของ Bitcoin คืออะไร

  การอัปเกรด Taproot ที่นำมาใช้ใน Bitcoin ในเดือนพฤศจิกายน 2021 เป็นการยกระดับครั้งสำคัญ มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำธุรกรรมและความเป็นส่วนตัว โดยมีการนำลายเซ็น Schnorr มาใช้แทนที่ลายเซ็น ECDSA แบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ธุรกรรมมีขนาดเล็กลง รวมถึงลดการใช้พื้นที่บล็อกและลดต้นทุนธุรกรรม นอกจากนี้ Taproot ยังเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวด้วยการทำให้ทุกธุรกรรมแสดงเป็นรูปแบบเดียวกันบนบล็อกเชน ไม่ว่าจะมีความซับซ้อนเพียงใดก็ตาม สิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Smart Contract และธุรกรรม Multi-Signature เนื่องจากทำให้มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างไปจากธุรกรรมทั่วไป การอัปเกรดนี้เป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของ Bitcoin โดยช่วยให้มีขีดความสามารถด้านธุรกรรมที่มีประสิทธิภาพ เป็นส่วนตัว และขั้นสูงยิ่งขึ้น

• Bitcoin Lightning Network คืออะไร

  Bitcoin Lightning Network เป็นโซลูชันแบบ Layer-2 ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Bitcoin วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้น โดยจัดการปัญหาด้านความสามารถในการขยายการรองรับของเครือข่าย Bitcoin หลัก ทำได้ด้วยการสร้างช่องทางการชำระเงินระหว่างผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้ทันทีโดยไม่ต้องบันทึกทุกรายละเอียดบนบล็อกเชน จึงลดได้ทั้งเวลาในการทำธุรกรรมและค่าธรรมเนียม ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกรรมขนาดเล็กที่ทำถี่ๆ Lightning Network เป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Bitcoin ทำให้นำไปใช้งานได้จริงยิ่งขึ้นสำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงลดความหนาแน่นในบล็อกเชนหลักด้วย

• Bitcoin ทำงานอย่างไร

  Bitcoin ดำเนินงานบนเครือข่ายบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ บันทึกธุรกรรมตามลำดับเวลาเพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัย มีนักขุดเป็นผู้ยืนยันธุรกรรมและเพิ่มธุรกรรมไปยังบล็อกเชน ซึ่งจะได้รับ BTC เป็นรางวัลบล็อก BTC ใช้เป็นการลงทุนเป็นหลักและไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลางใดๆ แต่ปัจจัยภายนอกก็มีผลต่อมูลค่า Bitcoin มี Fork ออกไปเป็นหลายตัว เช่น Bitcoin Cash และ Bitcoin Gold ซึ่งมีส่วนช่วยในระบบนิเวศที่หลากหลาย ปัจจุบันมีถึง 45 ตัวที่ยังคงมีการเทรดกันอยู่ตลอด